Case study : Anisometropia (ค่าสายตาสองข้างต่างกัน)
Anisometropia เป็นอีก 1 ปัญหา ซึ่งพบได้บ่อยตั้งแต่ได้มาเปิดร้านแว่นเป็นของตัวเอง
ซึ่งส่วนมากจะพบในเด็กวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ คนไข้มักจะมาด้วยอาการที่รู้สึกว่า ใช้มือปิดตาแล้วเห็นภาพชัดไม่เท่ากันบ้าง หรืออาจจะไม่ได้มีอาการใดๆมาเลยก็มี ซึ่งอาจเกิดจากตาหนึ่งมองที่ระยะไกลชัด ส่วนอีกตาหนึ่งมองที่ระยะใกล้ชัด จึงไม่ได้รู้สึกมีปัญหาอะไร
เมื่อ Accommodation ถูกกระตุ้นในปริมาณที่เท่ากัน จะมีการตอบสนองเท่ากันทั้ง 2 ตา
แต่หากเรา uncorrect anisometropia หรือ แก้ค่าสายตาไม่หมด จะทำให้ภาพที่เกิดบริเวณ retina หรือ จอประสาทตามีความคมชัดที่ไม่เท่ากัน ทำให้กลไกของตาทั้งสองข้างทำงานได้ไม่เท่ากัน
แต่……. เมื่อค่าสายตาของตา ทั้ง 2 ข้างมันไม่เท่ากัน จึงทำให้ขนาดของภาพที่เห็น มันไม่เท่ากันด้วยเมื่อแก้ไขด้วยแว่น ซึ่งสามารถทำให้เกิดปัญหาได้ นั่นคือ
1. Prism effect ต่างกัน เมื่อตามีการ movement
2. Aniseikonia ขนาดของภาพจากตาทั้ง 2 ข้าง มีขนาดต่างกัน
-
1. Differential Prismatic Effect
อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า เลนส์แว่นตาที่เราใส่กันอยู่มันจะมีลักษณะคล้ายกับการเอาปริซึม 2 อันมาต่อกัน
Concave Lens หรือเลนส์เว้าที่ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาสั้น จะมีลักษณะคล้ายกับการเอายอดหรือ Apex ของปริซึมมาต่อกัน
Convex Lens หรือเลนส์นูนที่ช่วยแก้ไขปัญหาสายตายาว จะมีลักษณะคล้ายกับการเอาฐานหรือ Base ของปริซึมมาต่อกัน
Optical center คือ ตำแหน่งศูนย์กลางเลนส์ของแว่นตา
ที่ตำแหน่ง Optical center จะมีค่าปริซึมเท่ากับ 0
ถ้าตำแหน่งตาของเราตรงกับตำแหน่งของ Optical center ของเลนส์เราจะมองอยู่ในตำแหน่งที่ค่าปริซึม เท่ากับ ศูนย์
เมื่อ Optical center ไม่ตรงกับตำแหน่งตาดำ ทำให้ภาพที่เรามองเห็นเหมือนกับการมองผ่านปริซึม ซึ่งเราจะเรียกว่า Prism Effect
Prism Effect จะเกิดเมื่อ Visual Axis ผ่าน lens บริเวณอื่นที่ไม่ใช่ Optical Center
•ดูภาพหรือศึกษาเกี่ยวกับ Prism Effect เพิ่มเติมได้จาก https://voradaoptometry.com/faq/detail/12
เมื่อตามองไปทางขวา แล้วคนไข้ใส่เลนส์นูน หรือเลนส์บวก
ในตาข้างขวา จะได้รับ Prism Effect Base In
ในตาข้างซ้าย จะได้รับ Prism Effect Base Out
เมื่อตามองไปทางซ้าย
ในตาข้างขวา จะได้รับ Prism Effect Base Out
ในตาข้างซ้าย จะได้รับ Prism Effect Base In
*ถ้าเลนส์ที่ใส่เพื่อแก้ไขค่าสายตามี Power ที่ต่างกัน Prism Effect ที่พบก็จะต่างกัน
ในแนว Vertical หรือ บน-ล่าง ก็มีปัญหา Prism Effect เหมือนกัน
เมื่อมองผ่านเลนส์นูน แล้วตาเคลื่อนที่ต่ำลง ก็จะ induce Base Up ที่ต่างกัน
Anisometropia ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่อายุ 5-6 ปีอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิด Amblyopia ได้
คนที่มีปัญหา Anisometropia น้อยหรือค่าสายตาต่างกันน้อยๆอาจจะไม่แสดงอาการ
- 2. Aniseikonia
( Image of different size or shapes for the two eyes )
ขนาดภาพและความชัดของภาพของตาแต่ละข้างต่างกัน
- การเป็น Aniseikonia ต้องดูว่าเป็นจาก Anatomical หรือ Optical lens
•Anatomical เกิดจากความหนาแน่นของ Photoreceptors หรือ cell รับแสงบริเวณ Retinaหรือจอประสาทตาของทั้ง 2 ตาต่างกัน หรือมีความผิดปกติที่การส่งสัญญาณภาพไปยังสมองที่บริเวณ visual cortex
•Optical lens เกิดจาก เมื่อแก้ไขด้วยเลนส์แว่นตาตาทั้ง 2 ข้าง มีกำลังขยายที่ต่างกัน
Retinal image หรือภาพที่ไปตกบริเวณจอประสาทตามีขนาดที่เล็กกว่าหรือใหญ่กว่าตาอีกข้างหนึ่ง ทำให้ขนาดของภาพในตาทั้ง2ข้าง มีขนาดใหญ่ไม่เท่ากัน
ดังนั้น การจ่ายแว่นให้กับคนไข้ที่มีปัญหา Anisometropia จึงต้องอาศัยความร่วมมือของคนไข้อย่างมากในการปรับตัวกับค่าสายตาที่ต่างกัน ในช่วงแรก และอาศัยศิลปะในการจ่ายแว่นเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาคนไข้ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
ยกตัวอย่าง เคสของน้องคนหนึ่งอายุ 18 ปี
อยากเปลี่ยนแว่นใหม่ เพราะแว่นตัวเก่าใกล้พังแล้ว แว่นตัวเก่าใช้มา 5 ปีแล้ว จากการสังเกตุพฤติกรรมของน้อง น้องชอบหรี่ตาเวลาต้องมองอะไรบางอย่าง
สุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว
ค่าสายตาแว่นเก่า
OD (ตาขวา) : -3.00-1.00*174 VA 20/30-1
OS (ตาซ้าย) : -4.25-1.00*180. VA 20/200
VA ตาเปล่า
OD : 20/200@1m
OS : 20/200@1m
Retinoscope
OD : -4.00-2.00*180 VA 20/30
OS : -7.00-2.50*180 VA 20/30
Monocular Subjective
OD : -4.00-1.75*155 VA 20/25
OS : -6.75-2.50*10 VA 20/25
Best Visual Acuity
OD : -4.00-1.75*155 VA 20/25 with pinhole
OS : -6.75-2.50*10 VA 20/25 with pinhole
Freespace
OD : -4.00-1.75*155
OS : -6.50-2.50*10
ค่าสายตาที่จ่ายแว่น
OD : -4.00-1.75*155
OS : -6.50-2.50*10
กรอบแว่นตา eyecosplay Handmade
ใส่แว่นครั้งแรกน้องรู้สึกว่าภาพชัดขึ้นแต่ภาพยังไม่ค่อยปกติ มีมึนๆหัวบ้าง เลยบอกให้น้องพยายามใส่บ่อยๆ ถ้าใส่แล้วรู้สึกมึนหัวมาก ก็ให้ถอดแล้วใส่สลับกับแว่นตัวเก่า แต่ให้พยายามใส่บ่อยๆ จนในที่สุด น้องก็ทักมาบอกว่าแว่นที่ตัดไปใส่ได้ปกติแล้ว ตอนนี้ใส่ทุกวัน ไม่มึนหัวใดๆ
และใช่ค่ะลุ้นกับแว่นของน้องจนลืมถ่ายรูป จึงต้องขอความช่วยเหลือจากน้องให้น้องถ่ายมาให้ที ก็ได้ภาพอย่างที่เห็นเลยค่ะเป็นฝีมือการถ่ายภาพของนัองเจ้าของแว่น
จากเคสที่ได้ยกตัวอย่างไปนี้จะเห็นได้ว่า VA หรือความสามารถในการมองเห็นของน้องเมื่อแก้ไขด้วยแว่นแล้วอาจจะดีได้ไม่เท่ากับคนปกติ (คนปกติ VA 20/20 ขนาดตัวอักษรจะมีขนาดเล็กกว่า VA 20/25) แต่ก็ไม่ได้น้อยเกินไปจนถึงขั้นเป็นตาขี้เกียจ
ตัวอย่างเคส Anisometropia เพิ่มเติม https://www.facebook.com/105251858369014/posts/272899418270923/
ดังนั้นท่านใดที่รู้สึกว่าตาทั้งสองข้าง มองเห็นได้ชัดไม่เท่ากัน หรือรู้สึกไม่สบายตา ก็อยากให้เข้ารับการตรวจสายตาให้เร็ว รู้ปัญหาเร็ว แก้ไขได้เร็วและทันเวลา การมองเห็นก็มีโอกาสที่จะมองเห็นได้ดีและกลับมาเป็นปกติได้ค่ะ
Content by : Worada Saraburin , O.D.
ให้บริการทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 09.30 - 18.00น. *หยุดทุกวันจันทร์
ท่านใดที่สนใจนัดหมายเข้ารับบริการ ติดต่อได้ที่เบอร์ 065-949-9550
ใช้เวลาในการตรวจ 1 - 2 ชั่วโมง
สำหรับคนที่สนใจทำแว่นทางร้านเราใช้เวลาในการส่งฝนและประกอบเลนส์เข้ากรอบประมาณ 10 - 14 วันนะคะ
ร้านตั้งอยู่ที่
อาคารหมายเลข 89/45 ม.3 ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
https://maps.app.goo.gl/VUB5EgTVntLPyGKZ9?g_st=ic
อยู่ติดกับถนนเส้น บางปะกง - ฉะเชิงเทรา
ฝั่งตรงข้าม เมกาโฮม ฉะเชิงเทรา
ใกล้กับร้าน ขนมเปี๊ยะ ซาลาเปา อึ๊งมุ่ยเส็ง สาขาบ้านโพธิ์
Facebook Page : Vorada Optometry