แว่นที่มีกำลังค่าสายตามากเกินจริง  มีผลอย่างไร

 

 

ปัญหาสายตาที่เกิดจากความผิดปกติของการหักเหของแสงในดวงตาของเรานั้น สามารถทำให้เกิดปัญหา 3 ปัญหานั่นก็คือ ปัญหาสายตาสั้น  สายตายาว และสายตาเอียง

 

แต่ในวันนี้  ขอมาอธิบายเกี่ยวกับการจ่ายแว่นที่ไม่ตรงกับค่าสายตาจริงๆของคนไข้  ในเคสที่เป็น สายตาสั้นและสายตายาวกันก่อน  เพราะน่าจะเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจได้ง่ายกว่าปัญหาสายตาเอียง  และการจ่ายค่าสายตาเกินจริงส่วนใหญ่จะพบในคนไข้ที่เป็นสายตาสั้นมากกว่าสายตายาว   ส่วนในคนไข้ที่เป็นสายตายาวส่วนใหญ่จะพบการจ่ายเลนส์ที่น้อยเกินจริงจากค่าสายตาของคนไข้

 

สายตาสั้น หรือ Myopia เป็นภาวะที่แสงจากระยะอนันต์กระทบกับวัตถุ สะท้อนเข้าสู่ดวงตาผ่านระบบการหักเหต่างๆแล้วไปโฟกัสที่บริเวณด้านหน้าของจอตา   วิธีการแก้ไขปัญหาของคนสายตาสั้นก็คือ การใช้ Minus Lens หรือ เลนส์เว้า ที่มีคุณลักษณะในการกระจายแสง เพื่อผลักแสงที่โฟกัสอยู่บริเวณด้านหน้าจอตา ให้เลื่อนออกไปตกที่บริเวณจอตาพอดีจึงจะสามารถมองเห็นภาพได้ชัด

สามารถอ่านการแก้ไขปัญหาของคนสายตาสั้นเพิ่มเติมได้ที่ https://voradaoptometry.com/knowleage/detail/34

 

สายตายาว หรือ Hyperopia เป็นภาวะที่แสงจากระยะอนันต์กระทบกับวันถุ สะท้อนเข้าสู่ดวงตาผ่านระบบการหักเหต่างๆแล้วไปโฟกัสที่บริเวณด้านหลังจอตา

วิธีการแก้ไขปัญหาของคนสายตาสั้นก็คือ การใช้ Plus Lens หรือ เลนส์นูน ที่มีคุณลักษณะในการรวมแสง เพื่อดึงแสงที่โฟกัสอยู่บริเวณด้านหลังจอตา ให้เลื่อนเข้าไปตกที่บริเวณจอตาพอดี 

สามารถอ่านปัญหาของคนสายตายาวเพิ่มเติมได้ที่ https://voradaoptometry.com/faq/detail/8

 

ในการใช้เลนส์เว้าและเลนส์นูนแก้ไขปัญหาถ้าใช้ได้อย่างถูกต้อง ใช้กำลังเลนส์ที่เหมาะสมกับค่าสายตาก็จะไม่มีผลใดๆตามมา  

 

แต่ถ้าหากว่า  เราใช้กำลังเลนส์ที่มากเกินค่าสายตาจริงๆของเรา  หรือ เรียกกันว่าการจ่ายเลนส์แบบ  Overminus  หรือ  Overplus จะเกิดอะไรขึ้นกับกลไกลการมองเห็นเราของเรากันบ้างเดี๋ยวเรามาดูกัน

 

ในการตรวจหาค่าสายตาของคนไขในแต่ละคน เราจะได้รับการตรวจด้วยกัน 2 แบบ คือ

 

          1. การตรวจหาค่าสายตาแบบ Objective ( การหาค่าสายตาโดยไม่ต้องการการตอบสนองจากคนไข้ ) ซึ่งประกอบไปด้วย 

• การส่อง Retinoscope ดู Reflex แสงไฟที่อยู่ในดวงตา เพื่อหาค่าสายตาของคนไข้ว่ามีค่าสายตา สั้น ยาว หรือเอียงอยู่เท่าไหร่ มีค่าสายตาเอียงอยู่ที่องศาประมาณไหน  ซึ่งเป็นวิธีเดียว ที่คนไข้ไม่สามารถหลอกเราได้เพราะเป็นวิธี ที่เราสามารถเห็นและรู้ได้ด้วยตัวผู้ตรวจเองว่าคนไข้มีค่าสายตาประเภทไหนและมีกำลังเท่าไหร่

 

         2. การตรวจหาค่าสายตาแบบ Subjective  (การหาค่าสายตาโดยต้องการการตอบสนองในการถามตอบกับคนไข้ ) ประกอบไปด้วย 

•  การ Fogging / Step down เพื่อคลายการเพ่งของดวงตาและป้องกันการ Overminus ของค่าสายตา ซึ่งคำพูดที่จะรู้ว่าผู้ตรวจกำลังทำขั้นตอนนี้อยู่ก็คือ แถวนี้เบลอให้บอก หรือ แถวนี้กลับมาอ่านได้ให้บอก

•  การตรวจหาค่าสายตาเอียง ด้วยวิธี Jackson’s Cross Cylinder หรือ JCC ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ใช้หากำลังของค่าสายตาเอียงและองศาของค่าสายตาเอียงอย่างละเอียด คำพูดที่จะต้องพูดประจำขั้นตอนนี้ก็คือ ภาพที่ 1 กับ ภาพที่2 ภาพไหนชัดกว่า  

•  การ Balance ตาทั้ง 2 ข้างให้มีการเพ่งที่เท่าๆกัน ด้วยวิธีการใส่ Prism เพื่อแยกภาพให้เป็น 2 ภาพ บนกับล่าง แล้วคำพูดประจำขั้นตอนนี้ก็คือ ภาพบนกับภาพล่าง ภาพไหนชัดกว่า

 

ซึ่งการตรวจขั้นตอนต่างๆ ทั้ง Objective และ Subjective สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการตรวจได้ตามความเหมาะสมและยังมี Test อื่นๆอีกมากมายที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการตรวจได้

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า   การตรวจหาค่าสายตา  เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดในการทำแว่นตาอันหนึ่ง  เพราะถ้าการตรวจได้ค่าสายตาที่มากเกินจริงหรือน้อยเกินจริง ก็จะมีผลกับการจ่ายเลนส์แว่นตาให้กับคนไข้ได้

 

อย่างเช่น  การตรวจได้ค่าสายตาที่มากเกินจริง  อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆที่ไม่ทราบได้เพราะแต่ละที่ที่ตรวจก็จะมีปัจจัยและแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน  อาจเกิดจากมาตรฐานของอุปกรณ์  การไม่ได้ควบคุมความสว่าง ระยะห้องตรวจ  รวมถึงวิธีการตรวจด้วยก็เป็นได้ หรือสามารถขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆได้อีกมากมาย  อาจทำให้กลไกการเพ่งของเลนส์ตา ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ Relax Accommodation ทำให้ได้ค่าสายตาที่มากเกินจริงได้

 

เรามาแยกออกเป็น 2 กรณี เมื่อเราได้ค่าสายตาที่มากเกินจริง คือ

 

       1. กรณีของคนที่มีปัญหาสายตาสั้นแล้วได้ค่าสายตาที่มากเกินจริง   =   จ่ายเลนส์ที่มากกว่าค่าสายตาจริงของคนไข้

ในการแก้ไขปัญหาสายตาสั้นเราจะใช้เลนส์เว้า เพื่อผลักแสง จากที่มันเคยโฟกัสอยู่ด้านหน้าจอตาผลักให้มันเลื่อนไปตกที่จอตาพอดี  

 

 

แต่ถ้าเราจ่ายเลนส์เว้าที่มีกำลังมากเกินไป มันก็จะผลักแสงให้ไปตกเลยบริเวณจอตานั่นคือ ไปตกที่ด้านหลังจอตา  ( เหมือนได้กลายเป็นคนสายตายาวไปโดยไม่คาดคิดอีก ) ทำให้เวลาเราสวมแว่นอันนี้ เลนส์ตาของเราก็จะต้องคอยป่องออกเพื่อดึงแสงให้มาตกให้ตรงกับจอตาพอดีตลอดเวลา  

ยิ่งจ่ายเลนส์ที่มากเกินจริงมากเท่าไหร่  เลนส์ตาของเราก็จะทำงานหนักมากยิ่งขึ้น อาจะทำให้เกิดอาการไม่สบายตาต่างๆตามมาทั้งนี้เราหมายถึงการมองที่ระยะไกล   

 

และที่น่าเป็นห่วงไปมากกว่านั้นคือ  การมองในระยะใกล้ของคนไข้   ในคนปกติเวลาที่เรามองวัตถุในระยะใกล้  แสงจะโฟกัสที่ด้านหลังจอตาของเราอยู่แล้ว และร่างกายของเราก็จะสร้างกระบวนการเพ่งหรือการ Accommodation ขึ้นมาเพื่อดึงแสงให้มาโฟกัสที่บริเวณจอตา   แต่ถ้าคนไข้ใส่แว่นที่ Overminus ที่ระยะไกล โดยที่ต้องมีการเพ่งที่ระยะไกลอยู่แล้ว  พอเปลี่ยนมามองที่ระยะใกล้ก็จะต้องใช้กำลังในการเพ่งมากกว่าเดิม จะมากกว่าแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่ากำลังเลนส์มัน Over ไปมากแค่ไหน ผลที่ตามมาก็คือ คนไข้จะมีปัญหาไม่สบายตาเวลามองใกล้ หรืออาจจะเพ่งไม่ไหวจนเห็นเป็นภาพเบลอไปเลยก็เป็นได้

 

       2. ในกรณีของคนที่มีปัญหาสายตายาวแล้วได้ค่าสายตาที่มากเกินจริง = จ่ายเลนส์ที่มากกว่าค่าสายตาจริงของคนไข้

ในการแก้ปัญหาของคนสายตายาวจะใช้เลนส์นูน เพื่อดึงแสงให้มาโฟกัสบริเวณจอตา จากตอนแรกแสงไปโฟกัสที่ด้านหลังของจอตา

 

 

 แต่ถ้าเราจ่ายเลนส์นูนที่มีกำลังมากเกินไป หรือ Overplus   เลนส์นูนมันก็จะดึงแสงมาโฟกัสที่ด้านหน้าจอตามากเกินไป ( และเราก็กลายเป็นคนสายตาสั้นไปโดยปริยาย ) ทำให้เวลาสวมแว่นอันนี้ จะมีอาการเหมือนกับคนที่เป็นสายตาสั้น  นั่นคือมองไกลๆไม่ชัด  ความไม่ชัดจะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่ากำลังเลนส์มัน  over ไปมากน้อยแค่ไหน 

 

ส่วนการมองในระยะใกล้อาจจะมองเห็นได้ชัดเพราะ ในคนปกติเวลามองวัตถุในระยะใกล้แสงจะไปโฟกัสหลังจอตาอยู่แล้ว ถ้าบังเอิญเลนส์นั้นมัน over พอดีกับกำลังเลนส์ที่จะต้องดึงแสงให้มาโฟกัสบริเวณจอตาพอดี ก็จะทำให้มองใกล้ได้ชัด  แต่คำว่าบังเอิญ ก็แสดงว่าคงจะมีเปอร์เซนต์อยู่ไม่มากเท่าไหร่

 

 

ดังนั้นในการทำแว่นแต่ละตัว มีขั้นตอนและรายละเอียดต่างๆมากมายที่ต้องคำนึงถึง  หากลืมหรือพลาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปก็อาจทำให้แว่นที่คนไข้จะได้ใช้นั้น ไม่สบายตาเท่าที่ควร 

วันนี้ขอลาไปก่อนและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้เป็นประโยชน์กับผู้อ่านและผู้สนใจไม่มากก็น้อยนะคะ  

 

 

Content by : Worada  Saraburin , O.D.

 

 

ให้บริการทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 09.30 - 18.00น. *หยุดทุกวันจันทร์

นัดหมายเพื่อเข้ารับบริการ 065-9499550

ใช้เวลาในการตรวจ 1 - 2 ชั่วโมง
สำหรับคนที่สนใจทำแว่นทางร้านเราใช้เวลาในการส่งฝนและประกอบเลนส์เข้ากรอบประมาณ 10 - 14 วันนะคะ 

ร้านตั้งอยู่ที่
อาคารหมายเลข  89/45 ม.3​ ต.บางกรูด​ อ.บ้านโพธิ์​ จ.ฉะเชิงเทรา​  

https://maps.app.goo.gl/VUB5EgTVntLPyGKZ9?g_st=ic

อยู่ติดกับถนนเส้น บางปะกง - ฉะเชิงเทรา
ฝั่งตรงข้าม เมกาโฮม ฉะเชิงเทรา
ใกล้กับร้าน ขนมเปี๊ยะ ซาลาเปา อึ๊งมุ่ยเส็ง สาขาบ้านโพธิ์

สามารถจอดรถบริเวณหน้าร้านได้เลยค่ะ